วันที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 12.00 น. นายวิทยากร มณีเนตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ ได้ เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องการระบายข้าวคงเหลือในสต๊อกของรัฐ จากคลังสินค้ากลางกิตติชัย (หลัง 2) และคลังสินค้า บริษัท พูนผลเทรดดิ้ง จำกัด (หลัง 4) ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 จำนวนประมาณ 15,000 ตัน ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้สั่งให้มีการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานอย่างละเอียดรอบคอบก่อนเปิดประมูลและได้นำทีมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการโรงสี ผู้ส่งออกและสื่อมวลชนทุกแขนง ไปร่วมตรวจสอบด้วย และได้ส่่งตัวอย่างข้าวจากทั้งสองโกดังให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ หลังจากได้รับรายงานผลการตรวจสอบว่าข้าวดังกล่าวปราศจากสารพิษและสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคและยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ครบถ้วน จึงได้มอบหมายให้องค์การคลังสินค้า(อคส) เปิดประมูลขายข้าวดังกล่าว
นายวิทยากร มณีเนตร เปิดเผยว่า วันนี้ ตั้งแต่เวลา 9.00-12.00 น. มีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมประมูลได้ยื่นเอกสารคุณสมบัติ จำนวน 8 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการและผู้ส่งออกข้าวรายสำคัญจากจังหวัดต่างๆ ซึ่งขั้นตอนต่อไปทางองค์การคลังสินค้าจะตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้ยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ และจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 หลังจากนั้นในวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ผู้ผ่านคุณสมบัติจะยื่นซองเสนอราคา และ ทาง อคส. เปิดซองเสนอราคาในวันเดียวกัน ก่อนประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลในวันที่ 21 มิถุนายน 2567 ต่อไป ดังนั้นข้อกังวลที่ว่าจะไม่มีผู้มายื่นสองคุณสมบัติจึงคลายกังวลไปได้และคิดว่าทั้ง 8 รายจะมามายื่นซองเสนอราคาในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ พร้อมเพรียงกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์โดยการนำของท่านภูมิธรรม เวชยชัย ได้ดำเนินการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ให้เป็นไปตามกลไกตลาด ข้าวจำนวนดังกล่าว มีผู้สนใจและสามารถนำไปปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐาน เพื่อจำหน่ายต่อไป
โฆษกกระทรวงพาณิชย์ได้กล่าวตอนท้ายว่า ประชาชนไม่ควรกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะหากผู้ประมูลได้จะนำออกจำหน่ายก็จะต้องนำข่าวไปปรับปรุงคุณภาพเสียก่อนและผ่านการตรวจสอบคุณภาพข้าวหอมมะลิโดยกรมการค้าภายใน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และถ้าผู้ประมูลได้จะส่งออกข้าวก็จะต้องผ่านการตรวจสอบทางกายภาพและสารปนเปื้อนหรือสารพิษอย่างละเอียดโดยกรมการค้าประเทศซึ่งจะออกใบรับรองคุณภาพมาตรฐานให้เพื่อไปประกอบพิธีการส่งออกหลังจากที่ได้ตรวจสอบแล้วเท่านั้น