Header Image
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมเป้าทำงานในการผลักดันการส่งออกปี 2568 ของกระทรวงพาณิชย์ โดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมด้วย เมื่อวันพุธที่ 18 ธันวาคม 2567 ณ ห้องมโนปกรณ์นิติธาดา ชั้น 12 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
watermark

          นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน ร่วมแถลงภายหลังการประชุมเป้าทำงานในการผลักดันการส่งออกปี 2568 ของกระทรวงพาณิชย์ ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้ภาครัฐเร่งทำงานเชิงรุกร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การส่งออกไทยขยายตัว ทำเงินเข้าประเทศ และปรับตัวคว้าทุกโอกาสการค้า เพื่อคนไทย ในทุกวิกฤตที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งนายพิชัยได้ให้ตัวแทนทูตพาณิชย์ ใน 7 ภูมิภาค นำเสนอแผนผลักดันการส่งออกผ่านระบบ zoom และรับฟังข้อคิดเห็นจากภาคเอกชนด้วย
          นายพิชัย กล่าวว่า ภาคเอกชนชื่นชมที่กระทรวงพาณิชย์สามารถเจรจา FTA ไทย-เอฟตาจบลงได้ จะทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าต่อไป และในอนาคตจะเร่งเจรจา FTA กับอียู และอังกฤษ ให้มีเขตการค้าเสรีหรือ FTA เกิดขึ้นให้มากที่สุด โดยในปีนี้คาดว่าโอกาสที่การส่งออกจะทะลุ 5% มีสูง อาจจะทะลุ 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่า 10 ล้านล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ สำหรับปีหน้าได้กำหนด 10 นโยบาย ในการผลักดันการส่งออกไทย ประกอบด้วย
          1.ผลักดันการส่งออก ปี 2568 คาดว่าการส่งออกจะเติบโตได้ 2-3% ซึ่งหวังว่าจะทำได้มากกว่านี้ เพราะเชื่อว่าตอนนี้มีหลายอุตสาหกรรมที่แห่เข้ามาลงทุนในไทย 
          2.ไวต่อสถานการณ์ การค้าและการลงทุนเรื่องที่กังวลในประเด็นสหรัฐฯจะขึ้นภาษี ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งเจรจาโดยในเดือนกุมภาพันธ์ ตนจะมีโอกาสพบกับผู้บริหารชุดใหม่ของอเมริกา จะไปอธิบายว่าประเทศไทยไม่ควรโดนภาษีเพิ่มเพราะไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าให้อเมริกา 
          3.เศรษฐกิจไทย กลับมาเป็นบวกต่อเนื่อง ซึ่งตนเชื่อว่าทุกวิกฤติเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทย และในวันพรุ่งนี้ตนจะเดินทางไปที่ญี่ปุ่นจะพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น หรือ METI และพบกับภาคเอกชนจะเชิญชวนให้มาลงทุนในไทย
          4.ไทยพร้อมทำ FTA กับทุกประเทศ เพื่อเร่งขยายการค้า ทำเงินเข้าประเทศ
          5.พร้อมเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมใหม่ เศรษฐกิจไทยต้องโตอย่างต่ำ 5% ไปอีกปี 20 ปี ถึงจะหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ต้องพร้อมเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ทั้งเซมิคอนดักเตอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ 
          6.รีแบรนด์ Thai SELECT ให้เข้าใจง่ายคล้ายมิชลินสตาร์ และโปรโมทส่งออกสินค้าระดับ Think Thailand NEXT LEVEL ไม่ขายวัตถุดิบอย่างเดียว แต่จะขายสินค้าสำเร็จรูปที่มีมูลค่าสูงให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 
          7.สร้าง Thailand Brand การันตีสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อและร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สนับสนุนผู้ประกอบการ SME 
          8.ดึงดูดคนทั่วโลกด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ใช้เสน่ห์ของไทย ทำให้มีจุดขาย  
          9.ทูตพาณิชย์ต้องมองโอกาสใหม่ๆร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัด ช่วยส่งเสริมธุรกิจของไทยผู้ประกอบการไทย 
            และ10.กระทรวงพาณิชย์ ยุค 80:20 โดย 80% สนับสนุนภาคเอกชนส่งเสริมให้การค้าขายของเราให้เจริญรุ่งเรืองและอีก 20% ทำหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้การเกิดค้าขายที่เป็นธรรม มีมาตรฐาน
          “ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนมีความร่วมมือที่ดีกันมาโดยตลอด ทางเอกชนเสนอว่าควรมีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เช่น ทุก 3 เดือน หรือถ้าฉุกเฉินก็สามารถคุยกันได้ทันทีเพื่อเร่งส่งเสริมเศรษฐกิจไทยเติบโต เพราะเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนด้วยเอกชน กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ส่งเสริมให้เอกชนทำให้การค้าการขายคล่องขึ้นส่งของได้มากขึ้น” รมว.พาณิชย์ กล่าว
          ด้านตัวแทนภาคเอกชน ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าฯขอชื่นชมท่านนายกรัฐมนตรีและกระทรวงพาณิชย์ในการขับเคลื่อนอย่างเข้มข้น ทำให้ปีนี้การส่งออกไทยโตขึ้นถึง 5% มากกว่าที่คาดไว้ และในปีหน้าคาดว่าเราจะเติบโตต่อได้อีก ซึ่งอุปสรรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นในวันนี้เชื่อว่าจะมีโอกาสให้กับไทยในหลายเรื่อง ทางกระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกับภาคเอกชนให้ขับเคลื่อนการส่งออกของเศรษฐกิจไทย ถ้าไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรมากน่าจะไม่มีปัญหา
          นายอรุณ เอี่ยมสุรีย์ กรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ได้หารือกันกับกระทรวงพาณิชย์เกือบทุกเรื่อง มีการวางแผนป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งตัวเลขการส่งออกสูงเป็นประวัติการณ์ และแผนงานด้าน FTA มีความคืบหน้าและมีเป้าหมายที่จะขยายเพิ่มเติม เป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับประเทศ
          และนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกในปีนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประเทศสูงที่สุดในประวัติการณ์มากกว่า 10 ล้านล้านบาท มาจากการทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อระหว่างภาครัฐกับเอกชน และท่านรัฐมนตรีมีนโยบายที่ชัดเจนในการทำงานร่วมกับเอกชนทั้งการผลักดัน FTA และการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าอย่างจริงจังและรวดเร็ว  โดยในปีหน้าเราต้องทันเหตุการณ์และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เร่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรไทย
           ในการประชุมมี นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายอรุณ เอี่ยมสุรีย์ กรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทยผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ทูตพาณิชย์ทั่วโลกและพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ร่วมด้วย สำหรับสถานการณ์การส่งออก 10 เดือนแรก ปี 2567 ของไทย ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค.67 มีมูลค่า 250,398 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บวก 4.9%

 


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
starstarstarstarstar