นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบหมายให้ ดร. พงศกร อรรณนพพร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้แทนเปิดงานสัมมนาและปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “การค้าไทย-จีน บนหลักมิตรภาพ มาตรฐาน เท่าเทียม เป็นธรรม” ภายใต้งานสัมมนา “THAILAND & CHINA 2025: ไทย-จีน มิติสัมพันธ์อนาคตร่วมกัน ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย-จีน
กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ฝากย้ำและมีความเข้าใจการค้าทั้งภายในและภายนอกประเทศ ไทย-จีน มีความผูกพันและมิตรภาพที่ใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อปี พ.ศ. 2518 ซึ่งจะครบ 50 ปี ในปีหน้า แต่แท้จริงแล้ว ไทยและจีนมีสัมพันธไมตรีและติดต่อค้าขายกันมานานกว่า 700 ปี ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ช่วยให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างประโยชน์ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ทุเรียน มังคุด มันสำปะหลัง เป็นต้น ไทยได้ส่งออกไปขายยังประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ และไทยก็สั่งสินค้าจากจีนเข้ามาเป็นจำนวนมาก จะเห็นว่า ไทยและจีน เป็นคู่ค้าขายเหมือนเพื่อนกัน
ในการสัมมนาครั้งนี้ ดร. พงศกรได้กล่าวถึง ภาพรวมสถานการณ์การค้าและการลงทุนไทย-จีน ซึ่งมีการเติบโตเป็นอย่างดี โดยจีนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทย ต่อเนื่องติดต่อกัน 12 ปี ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ในปี 2567 การค้าไทย-จีน มีมูลค่าถึง 94,919.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (3.39 ล้านล้านบาท) ขยายตัว 8.2%
ในด้านการลงทุน ไทยเป็นตลาดศักยภาพที่เหมาะสมในเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้จีนหันมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ปี 2567 จีนขอรับการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 554 โครงการเพิ่มขึ้น 116.4% มูลค่าเงินลงทุน 114,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2%
สำหรับด้านการท่องเที่ยว จีนเป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทย ในปี 2567 มีสัดส่วนประมาณ 20% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด เนื่องจากมาตรการวีซ่าฟรีของทั้ง 2 ประเทศ ช่วยผลักดันให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าหลักมิตรภาพ เป็นเรื่องที่สำคัญ นำมาซึ่งการค้าการลงทุนที่ดีต่อกัน
ทั้งนี้ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์อันดี แสวงหาความร่วมมือที่เป็นร่วมประโยชน์ร่วมกัน กระทรวงพาณิชย์ พร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมโยงเพื่อเปิดประตูสู่การค้าการลงทุนระหว่างผู้ประกอบการและนักธุรกิจไทย-จีน บนหลักมิตรภาพ มาตรฐาน เท่าเทียม และเป็นธรรม โดยกระทรวงพาณิชย์ มีสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในจีน 7 แห่ง ซึ่งจะเป็นช่องทางแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน ต่อไป ดร. พงศกรกล่าว