นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์การค้าและการส่งออกสินค้าไทยในภูมิภาคอเมริกาและลาตินอเมริกา ร่วมกับนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์อัครราชทูต(ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานพาณิชย์ ณ กรุงวอชิงตัน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ในภูมิภาคอเมริกาและลาตินอเมริกา เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าในตลาดสหรัฐฯ ทำงานเชิงรุก เร่งหาโอกาสทางการค้า การลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ไทย ช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ดีขึ้น ให้ภาคเอกชนมีโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น ซื้อสินค้าไทยได้มากขึ้น
นายพิชัย กล่าวว่า วันนี้กระทรวงพาณิชย์เรียกทูตพาณิชย์ในภูมิภาคอเมริกาและลาตินอเมริกามารับฟังข้อเสนอและความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อทิศทางในอนาคตของเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีแนวโน้มเป็นบวก เชื่อว่าจะได้ประโยชน์จากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยทูตพาณิชย์และทีมพาณิชย์ในประเทศต่างๆถือเป็นส่วนหนึ่งของทีมไทยแลนด์และเป็นทัพหน้าของประเทศในการแสวงหาโอกาส ดึงดูดการค้าการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ไทย โดยการทำงานแบบพาณิชย์เชิงรุก เป็นส่วนหนึ่งของการทูตเชิงรุกตามข้อสั่งการของท่านนายกฯ ที่เน้นขยายตลาดสินค้าไทยในต่างแดน ตนได้ให้นโยบายพาณิชย์เชิงรุก ให้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความคิดริเริ่มใหม่ใหม่ สามารถนำมาเสนอตนได้เลยอย่าไปติดกรอบเดิม เพราะโลกเปลี่ยนเร็ว ทูตพาณิชย์ทุกคนสามารถใช้งานรัฐมนตรีพาณิชย์มาช่วยขยายตลาดการค้าการลงทุนในประเทศต่างๆได้
ในการประชุมวันนี้ ทูตพาณิชย์ทุกคนทำการบ้านมาดีมาก ได้มาให้ข้อมูล ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ว่าทิศทางอนาคตจะเป็นอย่างไร สินค้าอะไรที่มีอนาคต ตอนนี้ข้าวไทยขายดีมาก เมืองนอกราคาพุ่งขึ้นไปถึง 1,000 กว่าเหรียญสหรัฐฯ/ตัน ราคาในประเทศก็ดี ราคาข้าวสูงขึ้นต่อเนื่อง รู้สึกดีใจแทนชาวนา นอกจากนี้เราจะส่งสินค้าไทยที่เป็น Next Level ให้มีการเพิ่มมูลค่า พัฒนาตัวเองทำสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าไฮเทคมากขึ้น วันก่อนตนพบท่านทูตไต้หวัน ท่านบอกว่าไทยจะเป็นผู้ผลิต PCB (แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์)ที่ใหญ่ที่สุดในโลกต่อไปในอนาคต ทางไต้หวันก็ย้ายฐานการผลิตมาที่ไทย และไทยจะเป็นศูนย์กลางเซมิคอนดักเตอร์ ชิป สินค้าสมาร์ทต่างๆ เช่น สมาร์ททีวี ตู้เย็น EV และ AI ตอนที่ตนไปประชุมที่เปรูก็มี หลายประเทศให้ความสนใจ ทางแคนาดาก็จะนำนักลงทุนที่มีศักยภาพกว่า 100 คน มาไทยด้วย
วันนี้กระทรวงพาณิชย์ มีการทำงานเชิงรุก คิดล่วงหน้า ไม่ตามหลัง เป็นพาณิชย์เชิงรุกเพื่อหาโอกาสให้กับประเทศ เราจะเป็นฐานการผลิตให้กับอเมริกาส่งสินค้ากลับไปที่อเมริกาและประเทศอื่นๆ ตนพูดเสมอว่าไทยโชคดีไม่ต้องเลือกข้าง จีนก็รักเรา อเมริกาก็รักเรา อินเดียก็รักเรา รัสเซียก็รักเรา ตะวันออกกลางก็รักเรา เราเป็นที่รักของทุกคน การค้าการลงทุนทุกคนอยากได้ประโยชน์ต้องจัดสรรประโยชน์ให้ลงตัว และที่สำคัญในโลกการค้าอยู่ที่ความสัมพันธ์ ถ้าเรามีความสัมพันธ์ที่ดีการเจรจาต่างๆก็จะง่ายขึ้น โดยตนมีกำหนดการเดินทางมาสหรัฐฯ อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เพื่อพบปะกับผู้นำในระดับต่างๆของรัฐบาลใหม่ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการแต่งตั้งในเวลานี้ นี่เป็นตัวอย่างของการทำงานเชิงรุกเพื่อเร่งเจรจาให้เกิดการขยายการค้าการลงทุนในประเทศ
“วันนี้ คิดว่าการค้าการลงทุนในประเทศของเรา ขยายตัวแน่นอน เริ่มมีเงินลงทุนเข้ามาเยอะ อนาคตไทยเป็นบวกมาก ตนได้มีโอกาสติดตามท่านนายกฯ แพทองธารไปร่วมประชุมที่ลาว กาตาร์และเปรู ท่านนายกฯ เจรจาการค้าได้อย่างดีเยี่ยม มีบทบาทที่โดดเด่นในเวทีต่างๆ ทั้งโลกรู้จักและชื่นชอบ วันนี้ประเทศไทยเนื้อหอม ทิศทางของเราไปได้ดีถ้าเราประคองไปได้ จะกลับมาฟื้นใหม่เป็นการกลับมาใหม่ของเศรษฐกิจไทย กลับมารุ่ง ถ้าเรามีแผนงานและวิธีการดำเนินดำเนินงานที่ดี และคาดว่าการส่งออกปีนี้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้“ นายพิชัยกล่าว
นอกจากนี้ก่อนการหารือกับทูตพาณิชย์นายพิชัยและคณะยังได้หารือกับผู้นำเข้าสินค้าไทยรายใหญ่ 3 ราย เพื่อหารือทิศทางการค้าของสหรัฐฯโอกาสและผลกระทบของไทยจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ยินดีส่งเสริมแก้อุปสรรคการค้า ให้นำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้น ได้แก่
1) Mr.Sith Chaisurote, President บริษัท Land & House USA, Inc. ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมและอพาร์ตเมนท์ใน California และ Yard Apartment ใน Oregon
2) Mr.Sam Lee, President บริษัท Sun Lee, Inc. ผู้นำเข้าและผู้กระจายสินค้าอาหารรายใหญ่ในสหรัฐฯ
3) Mr.Suchapong Boonsjai, President บริษัท SCG International USA, Inc. ผู้ประกอบธุรกิจส่งสินค้าเศษโลหะและกล่องกระดาษ Recycle เข้าไทย นำเข้าผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างจากไทย