นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาผู้ประกอบการและการสหกรณ์มาเลเซีย(ดาตุก อีวอน เบเนดิก (Datuk Ewon Benedick)) เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ณ กระทรวงพาณิชย์ ว่า มาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดกับไทยมายาวนาน เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจของไทย โดยชาวมาเลเซียที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อปีมีจำนวนมากกว่า 3 ล้านคน จึงทำให้ชาวมาเลเซียมีความคุ้นเคยและนิยมชมชอบสินค้าและบริการของไทย โดยเฉพาะอาหารไทยและบริการนวดแผนไทย ซึ่งเอื้อต่อการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไทยในมาเลเซีย 
          ในวันนี้ รมว. มาเลเซียได้มาเยือนไทย เพื่อมาร่วมงานThailand Franchise & Business Opportunity (TFBO) จึงเป็นโอกาสอันดีที่กระทรวงพาณิชย์ของไทย และกระทรวงการพัฒนาผู้ประกอบการและการสหกรณ์มาเลเซียจะได้หารือแนวทางความร่วมมือเพื่อส่งเสริมธุรกิจ SME โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ แฟรนไชส์ซึ่งเป็นธุรกิจสำคัญที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศทั้งสอง และมีความเกี่ยวข้องกับ SME จำนวนมาก ความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าแล้วยังจะนำมาไปสู่การขยายการค้าและการลงทุนของแฟรนไชส์ในทั้งสองประเทศ
          นายภูมิธรรม เสริมว่า การหารือในวันนี้ ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันทำงานอย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยทางฝ่ายไทยได้มอบปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประสานความร่วมมือกับทูตมาเลเซีย เพื่อส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์อย่างเป็นรูปธรรม โดยจะเริ่มจากการจัดกิจกรรม Workshop สัมมนาที่มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ของทั้งมาเลเซียและไทยมาให้ความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจแฟรนไชส์ แฟรนไชส์ดาวรุ่งของแต่ละประเทศ ตลอดจนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างแฟรนไชส์มาเลเซียและแฟรนไชส์ไทย เพื่อขยายการค้าการลงทุนของธุรกิจแฟรนไชส์ รวมทั้งเสริมสร้างสังคมแฟรนไชส์ของทั้งสองประเทศ ให้เติบโตและเข้มแข็งยิ่งขึ้น นอกจากธุรกิจแฟรนไชส์แล้ว ทั้งสองประเทศยังพร้อมที่จะขยายความร่วมมือในการส่งเสริมโอกาสทางการค้าให้กับ SME ระหว่างกันอีกด้วย 
          โดยปัจจุบันมาเลเซียเป็นประเทศเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในอาเซียน และอันดับที่ 4 ของไทยในโลก และเป็นคู่ค้าชายแดนอันดับ 1 ของไทย ในปี 2566 การค้ารวมไทย-มาเลเซีย มีมูลค่า 25,118.03 ล้านดอลลาร์  สำหรับในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-พ.ค.) การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 10,787.02 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการส่งออก 5,046.26 ล้านดอลลาร์ และนำเข้า 5,740.76 ล้านดอลลาร์